ฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินลดกรามคืออะไร ช่วยให้หน้าเรียวเห็นผลได้จริงไหม?
เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะเป็นดาราเซเลบหรือคนทั่วไป ถ้าสังเกตดูส่วนใหญ่แล้วจะมีใบหน้าที่หน้าเรียวสวยได้รูปกันทั้งนั้น ในจำนวนนี้อาจจะมีคนที่หน้าเรียวตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่เชื่อว่ามีไม่น้อยเลยที่อาศัยการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินเพื่อให้หน้าเรียวกระชับขึ้นเนื่องจากเป็นวิธีที่ได้รับความนิยม โดยสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) เป็นสารธรรมชาติที่เมื่อนำมาใช้ในด้านความสวยความงามแล้วจะช่วยให้ใบหน้ากระชับ เรียวขึ้น ลดริ้วรอย และช่วยปรับรูปหน้าให้เข้าที่มากขึ้น
ฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินลดกรามคืออะไร? ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?
การฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินลดกราม คือ การฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) เข้าไปบริเวณกรามเพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อในบริเวณนั้น ส่งผลให้กล้ามเนื้อฝ่อตัวและเล็กลง ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กและดูสวยได้รูปมากยิ่งขึ้น
การฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซิน นอกจากจะทำให้ใบหน้าเรียบเนียนกระชับแล้ว ยังสามารถลดกราม ทำหน้าเรียวและปรับรูปใบหน้า รวมทั้งโหนกแก้ม กราม จัดให้ออกมาให้ดูดีดูสวยได้ทั้งหมด เพราะการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินนั้นได้รับการยอมรับในวงการแพทย์มานานแล้ว และเป็นที่ยอมรับว่ามีฤทธิ์สามารถยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อได้ โดยไม่มีอาการหรือผลข้างเคียงร้ายแรงใด ๆ จึงเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาโหนกแก้มใหญ่และกรามเหลี่ยม
ในการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินนั้นทีมแพทย์จะเลือกจุดในการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินเพื่อทำการปรับรูปหน้า โหนกแก้ม และส่วนกรามเพื่อให้รูปหน้าออกมาเรียวสวย ซึ่งในการฉีดจะต้องกำหนดแต่ละจุดบนใบหน้า เพื่อให้รูปหน้าออกมาสมมาตรกันโดยอาจจะเลือกฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินเพื่อเติมเต็มส่วนที่หายไป แล้วฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินอีกจุดเพื่อให้ใบหน้าเรียวได้รูปและกระชับ
เมื่อฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินซ์เข้าไปในร่างกายแล้ว โบทูลินั่ม ท็อกซินจะไปจับกับปลายประสาท และจะส่งสัญญาณกระตุ้นการหดตัว ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการผ่อนคลาย ริ้วรอยค่อย ๆ เนียนเรียบขึ้น กล้ามเนื้อจะลีบฝ่อลง ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กมากยิ่งขึ้น การฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินที่ถูกวิธีโดยแพทย์นั้นจะไม่ทำให้ใบหน้าดูเต่งตึงเกินไปจนไม่สามารถแสดงอารมณ์ทางสีหน้าได้เป็นปกติ เพราะโบทูลินั่ม ท็อกซินจะทำงานเฉพาะส่วนของกล้ามเนื้อที่แพทย์ได้เลือกฉีดให้เท่านั้น และนอกจากจะช่วยให้ผิวเรียบตึงแล้วยังสามารถช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อไม่ต้องการ ซึ่งส่งผลช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นได้อีกด้วย
สาเหตุของกรามใหญ่เกิดจากอะไร?
ปัญหากรามใหญ่เรียกได้ว่าเป็นปัญหากวนใจของใครหลาย ๆ คน เพราะทำให้หน้าดูบาน ดูมีอายุ และดูไม่ละมุน โดยสาเหตุหลัก ๆ ของการเกิดกรามใหญ่นั้นมาได้จากหลากหลายสาเหตุ ดังนี้
เกิดจากกรรมพันธุ์
กรรมพันธุ์เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหากรามใหญ่ โดยหากคุณพ่อคุณแม่หรือคนในบ้านมีลักษณะกรามใหญ่ ก็ทำให้เรามีโอกาสที่จะมีลักษณะกรามใหญ่มาด้วย กรามใหญ่ที่เกิดจากกรรมพันธุ์นั้นไม่สามารถแก้ไขให้หายได้ ต้องอาศัยการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินลดกราม หรือการผ่าตัดกราม
เกิดจากกล้ามเนื้อกรามใหญ่
การเคี้ยวอาหารเหนียว ๆ หรือเคี้ยวอาหารบ่อย ๆ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามทำงานหนักมากยิ่งขึ้น เหมือนกับการออกกำลังกายที่ยิ่งขยับกล้ามเนื้อบริเวณไหน กล้ามเนื้อบริเวณนั้นก็ยิ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นเท่านะเน
เกิดจากการเจริญเติบโตของกระดูก
รูปแบบการเจริญเติบโตของกระดูกกรามก็มีส่วนทำให้ใบหน้าดูมีกรามเหลี่ยมได้ โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว ปัญหากรามเหลี่ยมที่เกิดจากการเจริญเติบโตของกระดูกนั้นอาจแก้ไขไม่ได้ผลดีมากนักด้วยการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซิน จะแนะนำให้เข้ารับการผ่าตัดกรามจะดีกว่า
เกิดจากการที่ไขมันไปสะสมบนใบหน้า
เมื่อไขมันสะสมที่บริเวณใบหน้ามากเกินไป อาจทำให้หน้าดูบาน กรามดูเหลี่ยมได้ ปัญหาหน้าเหลี่ยมที่เกิดจากไขมันสะสมนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการลดน้ำหนัก ควบคุมอาหาร และการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินก็สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยเช่นเดียวกัน
อยากหน้าเรียวต้องฉีดอะไรดี?
หากต้องการมีใบหน้าดูเรียวสวยนั้น สามารถเข้ารับบริการที่หลากหลายได้เพื่อประสิทธิภาพที่เป็นที่น่าพึงพอใจ โดยหากอยากหน้าเรียว แนะนำให้ฉีด…
ฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้านั้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคางสั้น คางตัด คางบุ๋ม หรือผู้ที่ประสบปัญหาใบหน้าดูกร้าวเหมือนผู้ชาย แต่อยากต้องการให้ใบหน้าดูสวยละมุนและดูมีความเป็นผู้หญิงมากยิ่งขึ้น
โบทูลินั่ม ท็อกซิน
แน่นอนว่าการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหน้าเรียวเป็นอย่างมาก เป็นวิธีที่เป็นที่นิยมมาอย่างยาวนาน การฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินนั้นให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน เพราะช่วยให้กล้ามเนื้อกรามลีบและดูเล็กลง ส่งผลให้ใบหน้าดูเรียวมากยิ่งขึ้น
ฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินลดกรามอันตรายไหม?
การฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินนั้น เมื่อฉีดเข้าไปในปริมาณที่พอเหมาะ ตัวสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน จะทำให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว หรืออาจทำงานได้น้อยลง เรียกได้ว่ามีอาการอัมพาตชั่วคราว โดยดังกล่าวแทบไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ หากให้บริการโดยแพทย์ อีกทั้งในปัจจุบัน สารโบทูลินั่ม ท็อกซินนั้นเป็นสารที่ได้รับการยอมรับในวงการแพทย์ทั่วโลกและได้มีการนำมาฉีดในเรื่องของสุขภาพและความงามกันอย่างแพร่หลาย
ปัจจุบันความนิยมในการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน ไม่ได้มีความนิยมเฉพาะคนที่มีอายุมากเท่านั้น แม้แต่วัยรุ่นอายุระหว่าง 20-30 ก็สนใจทำโบทูลินั่ม ท็อกซินกันไม่น้อย เพราะบางคนอาจจะมีปัญหาริ้วรอย หรือต้องการฉีดเพื่อยกกระชับใบหน้า อย่างไรก็ตามการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินซ์ก็มีข้อควรระวังและข้อจำกัดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการฉีดมากเกินไปหรือบ่อยเกินไปจนส่งผลให้กล้ามเนื้อจุดนั้นเป็นอัมพาตกลายเป็นคนหน้าตายได้ หรือจะเป็นผลข้างเคียงอื่น ๆในแต่ละคน เช่น ปวดหัว เป็นไข้ แต่โดยรวมแล้วก็ไม่มีอันตรายใด ๆ จากการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินซ์เพื่อยกกระชับและลดริ้วรอยบนใบหน้า
ฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินลดกรามเหมาะกับใครบ้าง?
ผู้ที่เหมาะกับการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินลดกราม คือ ผู้ที่ประสบปัญหากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อหรือไขมัน หรือกรามใหญ่ที่เกิดจากการเคี้ยวอาหาร หรือมีการขยับที่กรามบ่อย ๆ จนกล้ามเนื้อบริเวณนั้นขยาย นอกจากนี้ ยังเหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดกราม ไม่อยากมีแผล และไม่อยากเสียเวลาพักฟื้น อีกทั้งการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินนั้นยังเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาในราคาที่เอื้อมถึงได้ และสามารถฉีดซ้ำได้โดยไม่เป็นอันตรายใด ๆ เนื่องจากร่างกายจะสามารถสลายสารนี้ได้เองตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป
ฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินหน้าเรียวอยู่ได้นานแค่ไหน?
การฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินนั้นใช้เวลาในการฉีดไม่นานเพียง 5-10 นาทีเท่านั้น สำหรับใครที่ใจร้อนและสงสัยว่าฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินกี่วันเห็นผล ผลลัพธ์ที่ได้นั้นแตกต่างไปตามละบุคคลแต่ก็มีปัจจัยอย่างอื่น ๆ ร่วมด้วย
- ปกติแล้วการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินจะใช้เวลาที่จะเห็นผลประมาณ 7 วันหรือเร็วกว่านั้น แต่จะเห็นผลชัดเจนมากที่สุดเมื่อผ่านไป 14 วัน กรามจะเรียวลงและใบหน้าจะเข้ารูปมากขึ้น แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นจะไม่อยู่ตลอดไป ดังนั้น จึงจำเป็นต้องให้แพทย์ฉีดซ้ำอีก 6 เดือนหรือ 1 ปี หลังจากนั้น เพื่อให้หน้าของคุณยังคงเรียวสวยอยู่เสมอ
- อย่างที่กล่าวไปว่าการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินจะเริ่มเห็นผลในวันที่ 7 แต่หากบริหารกล้ามเนื้อที่ใบหน้าบ่อย ๆ เช่น เคี้ยวหมากฝรั่ง ก็จะช่วยทำให้โบทูลินั่ม ท็อกซินออกฤทธิ์เร็วขึ้นอีกและจะทำให้ผลที่ฉีกโบทูลินั่ม ท็อกซินอยู่นานขึ้นด้วย
ต้องฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินลดกรามกี่ครั้ง หน้าถึงเล็กลง?
การฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินเพื่อลดกรามนั้นสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด โดยกรามจะค่อย ๆ มีขนาดเล็กลงและใบหน้ามีความดูเรียวและดูเล็กมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ ผลลัพธ์ของการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินนั้นจะอยู่ได้เพียงชั่วคราว เมื่อสารหมดฤทธิ์ กล้ามเนื้อจะค่อย ๆ กลับมาสู่สภาพเดิม จึงแนะนำให้กลับมาฉีดซ้ำหากอยากได้ผลลัพธ์ที่คงทนถาวร
ดูแลตัวเองหลังฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินกรามยังไง?
หลังจากที่เข้ารับการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินแล้ว แพทย์จะมีคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซิน เพื่อให้ผลลัพธ์นั้นคงทนอยู่ยาวนาน และมีประสิทธิภาพ โดยวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซิน มีดังนี้
- หลังฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินกราม แนะนำให้เคี้ยวหมากฝรั่งหรือบริหารกล้ามเนื้อเป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้โบทูลินั่ม ท็อกซินออกฤทธิ์ได้ดี
- อย่านวด กด หรือนวดหน้า หรือกิจกรรมใด ๆ ที่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง
- งดนอนราบหรือก้มหน้าเป็นเวลา 4 ชั่วโมง
- งดการอยู่ในที่ร้อน เช่น อบซาวน่า ปรุงอาหารหน้าเตาร้อนเป็นเวลา 4 ชั่วโมง
- รอยนูนจากการฉีดจะหายไปเองภายในเวลา 2-3 ชั่วโมง
- งดการออกกำลังกายอย่างหนักหรือเล่นโยคะเป็นเวลา 4 ชั่วโมงหลังการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินซ์
- งดการทายาหรือเครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น วิตามินเอ เอเอชเอ วิตามินซี เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- สามารถใช้น้ำแข็งประคบในกรณีที่มีอาการบวมแดงหรือช้ำได้
หลังจากฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินแล้วยังสามารถทาครีมบำรุงหรือใช้เครื่องสำอางได้ตามปกติ แต่เพียงแค่ระมัดระวังไม่ไปกดทับผิวหรือถูผิวในบริเวณนั้นแรงจนเกินไป
ฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินลดกรามที่ Skinserity ดีอย่างไร?
การฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินลดกรามนั้นสามารถช่วยแก้ปัญหาหน้าบานกรามใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถช่วยให้ใบหน้าดูเรียวสวยได้รูป ดูละมุน แต่เพื่อประสิทธิภาพ แนะนำให้เลือกใช้บริการคลินิกที่ได้มาตรฐาน ไม่ควรเห็นแก่บริการที่นำเสนอในราคาถูก เพราะอาจเป็นคลินิกเถื่อนที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจใช้โบทูลินั่ม ท็อกซินปลอมที่อาจทำให้เกิดการดื้อโบทูลินั่ม ท็อกซินหรืออาจเกิดอันตรายต่อร่างกาย
ที่คลินิก Skinserity มีบริการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินลดกรามโดยแพทย์ผู้มากไปด้วยทักษะและประสบการณ์ อีกทั้งยังใช้โบทูลินั่ม ท็อกซินของแท้ที่ได้มาตรฐานและผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาประเทศไทย เพื่อผลลัพธ์ที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน