ดริปวิตามินดียังไง? ใช่ทางลัดเพื่อผิวสวย ขาว ใสหรือไม่?
ผิวขาวสวยใสดูสุขภาพดี คงเป็นผิวในฝันของทุก ๆ คนไม่ว่าจะเพศไหนวัยไหน แต่ด้วยปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ แดดอันร้อนแรง รวมไปถึงพันธุกรรม ที่อาจทำให้ไม่สารถมีผิวขาวสวยใสได้ หลาย ๆ คนจึงกำลังมองหาทางลัดเพื่อผิวขาวใสกันมาอย่างยาวนาน
และด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้มีนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อการดูแลผิวให้ขาวใสให้เลือกใช้บริการมากมาย หนึ่งในนั้นคือการดริปวิตามินซึ่งเป็นบริการที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ดริปวิตามินผิว IV Drip คืออะไร?
การดริปวิตามินผิว หรือการฉีดวิตามินผิว (Intravenous Vitamin therapy หรือ IV Drip) เป็นการเติมสารอาหารและวิตามินให้แก่ผิวในรูปแบบของ IV (Intravenous) หรืออธิบายง่าย ๆ ก็คือการฉีดสารอาหารผิวผ่านทางหลอดเลือดดำผ่านการฉีดยาเข้าเส้นเลือดบนแขนหรือในบริเวณส่วนอื่นของร่างกาย เพื่อให้ผิวได้รับสารอาหารและวิตามินอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด
การฉีดดริปวิตามินผิวเหมาะกับการใช้สำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวหน้าหรือผิวกายในระยะเวลาสั้น ๆ โดยสารที่ฉีดเข้าไปนั้นจะเป็นสารอาหารและวิตามินที่ช่วยบำรุงผิวหน้าและผิวกาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน C วิตามิน E กรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic acid) กรดอะมิโน (Amino acids) และสารอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติในการช่วยปรับสภาพผิวและเสริมสร้างความแข็งแรงของเนื้อเยื่อให้ผิวดูสมบูรณ์และอ่อนเยาว์ขึ้น
drip วิตามินผิวมีประโยชน์ยังไง?
การดริปวิตามินผิวนั้น มีประโยชน์หลัก ๆ ก็คือการบำรุงผิวอย่างล้ำลึกในระยะเวลาสั้น ๆ เรียกว่าเป็นนวัตกรรมที่เอาใจวัยรุ่นใจร้านที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ผิวใสอย่างรวดเร็วทันท่วงที เนื่องจากการฉีดวิตามินดริปนั้น ร่างกายสามรถดูดซึมสารอาหารไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าและรวดเร็วมากกว่า แต่นอกจากประโยชน์เรื่องความรวดเร็วในการเห็นผลแล้ว การ drip วิตามินผิวก็มีประโยชน์ ดังนี้
- ช่วยบำรุงและซ่อมแซมร่างกาย
- ช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรงเปล่งปลั่งกระจ่างใสอย่างรวดเร็ว
- ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันปัญหาการเกิดริ้วริอยก่อนวัย
- ช่วยสมานแผลให้แผลหายไวมากยิ่งขึ้น จึงเหมาะกับผู้ที่ขาดวิตามินซี
- กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง
- ลดอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย เหมาะกับนักกีฬาหรือผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูร่างกาย
ทำ iv drip ปลอดภัยไหม?
การทำ iv drip นั้นถือว่าเป็นวิธีการที่ปลอดภัย แต่ทั้งนี้จะต้องเลือกใช้บริการจากคลินิกที่เชื่อถือได้ รวมไปถึงใช้บริการกับแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญ เนื่องจากการทำ iv drip นั้นจะต้องมีการซักประวัติ ตรวจร่างกาย รวมไปถึงการเลือกชนิดหรือสูตรของวิตามินด้วย วิตามินที่จะนำมาใช้ฉีดเข้าสู่ร่างกายก็ควรเป็นของแท้ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา
ดริปวิตามินเหมาะกับใครบ้าง?
การทำดริปวิตามินนั้นถือเป็นวิธีการเติมวิตามินเข้าสู่ผิวที่มอบผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยการทำดริปวิตามิน เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ ดังนี้
- ต้องการให้ผิวกระจ่างใสอย่างรวดเร็ว
- ผู้ที่ยุ่งมาก ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง แต่อยากได้ผลลัพธ์ผิวใสในเวลาสั้น ๆ
- ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงสภาพผิวจากภายในสู่ภายนอก
- ผู้ที่กำลังมองหาทางเลือกอื่นในการดูแลผิวนอกเหนือจากการยิงเลเซอร์หรือการใช้ครีมต่าง ๆ
- ผู้ที่ต้องการเติมวิตามินหรือคอลลาเจนสู่ผิวอย่างเร่งรัด
- ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น แต่อยากคืนความกระปรี้กระเปร่าให้ร่างกาย
- ผู้ที่ต้องการกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดริปวิตามินไม่เหมาะกับใคร?
ถึงแม่ว่าการดริปวิตามินนั้นจะมีความปลอดภัยและมอบคุณประโยชน์ต่อผิวและร่างกายได้มากมาย แต่ทั้งนี้ก็ยังมีข้อควรระวังสำหรับคนบางกลุ่ม เช่น
- คุณแม่ที่กำลังอยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือในช่วงให้นมบุตร
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด ความดันสูง
- ผู้ป่วยโรคหัวใจ
- ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ยังฉีดอินซูลินอยู่
- ผู้ที่มีปัญหาหรือป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคตับ โรคไต
- ผู้ที่มีภาวะวิตามินหรือแร่ธาตุเกิน
- ผู้ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์หรือมีภาวะเม็ดเลือดแดงแตก
นอกเหนือจากผู้ที่กำลังประสบภาวะข้างต้นแล้วนั้น ยังมีข้อจำกัดอีกมากมายที่จำเป็นต้องมีการตรวจสุขภาพร่างกายก่อนทำการดริปวิตามินทุกครั้ง ดังนั้น หากใช้ยาอะไรอยู่หรือมีปัญหาสุขภาพด้านไหน แนะนำให้แจ้งให้แพทย์ทราบด้วย
ฉีดวิตามินผิวบริเวณไหนได้บ้าง?
โดยปกติแล้ว ร่างกายของเราจะได้รับสารอาหารและวิตามินต่าง ๆ ผ่านการกินอาหารหรืออาหารเสริมต่าง ๆ ซึ่งสารอาหารเหล่านั้นจะผ่านระบบย่อยในร่างกายและใช้เวลานานกว่าที่ร่างกายจะสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้ นอกจากนี้ เมื่อสารอาหารเหล่านั้นผ่านกระบวนการย่อย ก็จะยิ่งสูญเสียคุณค่าทางอาหารเข้าไปอีก ดังนั้น การฉีดวิตามินจึงเป็นการช่วยให้ร่างกายสามารถใช้ประโยชน์จากสารอาหารได้อย่างรวดเร็วและเต็มที่
การฉีดวิตามินผิวนั้นจะทำการฉีดด้วยสายน้ำเกลือเข้าสู่เส้นเลือดดำ โดยบริเวณที่ฉีดที่นิยมกันจะเป็นบริเวณข้อพับแขน ซึ่งเป็นวิธีการเติมเต็มสารอาหารเข้าสู่ร่างกายได้โดยตรง ทำให้เห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ร่างกายสามารถดูดซึมนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว
ดริปวิตามินมีกี่แบบ?
การฉีดดริปวิตามินผิวปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ
การฉีดดริปวิตามินแบบเข็มไซริงค์
เป็นการฉีดวิตามินเข้าสู่เส้นเลือดดำผ่านเข็มฉีดยาที่บรรจุสารอาหารและวิตามินต่าง ๆ ไว้ วิธีการฉีดโดยใช้เข็มฉีดยาไซริงค์นั้นสามารถฉีดได้หลายบริเวณ และนิยมใช้ฉีดผิวที่บริเวณใบหน้าโดยตรง (เรียกวิธีการฉีดนี้ว่าการฉีดมาเด้) ผลลัพธ์ที่ได้จะไปเน้นซ่อมแซมผิวที่บริเวณใบหน้า ลดสิวอุดตัน และช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกตกค้างได้อย่างหมดจด
การฉีดดริปวิตามินแบบถุงน้ำเกลือ
เป็นการฉีดที่เหมือนกับการให้น้ำเหลือโดยจะต้องทำการเจาะเข็มซึ่งเชื่อมกับสายถุงเก็บวิตามินหรือสารอาหาร ขณะทำการฉีดจะต้องนั่งรอจนกว่าสารวิตามินในถุงไหลเข้าสู่เส้นเลือดดำจนหมด วิธีนี้จะเหมือนกับการให้สายน้ำเกลือคนไข้ในโรงพยาบาลนั่นเอง
ก่อนฉีดวิตามินต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง?
ขั้นตอนการฉีดวิตามินผิว ตั้งแต่การซักประวัติ ตรวจร่างกาย และฉีดวิตามินเข้าสู่ผิวปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแพทย์ได้เลย แต่สำหรับเราในฐานะผู้ใช้บริการนั้นก็ไม่ได้มีอะไรต้องเตรียมตัวมากนัก แต่แนะนำให้แจ้งแพทย์ให้รับทราบถึงประวัติด้านสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นโรคประจำตัว ยา อาหารเสริม หรือสมุนไพรที่ใช้อยู่ เพื่อให้แพทย์รับทราบและประเมิน รวมไปถึงป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากเงื่อนไขด้านสุขภาพได้
นอกจากนี้ ก่อนที่จะเข้ารับบริการฉีดวิตามินผิวยังควรต้องสำรวจความต้องการของตัวเองเสียก่อนว่าต้องการผลลัพธ์ของการฉีดดริปวิตามินเพื่ออะไร จากนั้นให้แจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อให้แพทย์เลือกสูตรวิตามินได้อย่างตรงตามความต้องการ
ขั้นตอนการดริปวิตามิน
สำหรับขั้นตอนการดริปวิตามินผิวนั้นเรียกได้ว่ามีขั้นตอนที่เรียบง่ายและไม่ซับซ้อน ระยะเวลาในการทำจะใช้เวลารวมทั้งหมดไม่เกิน 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยขั้นตอนต่าง ๆ ในการดริปวิตามิน มีดังนี้
- ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง และวัดความดันโลหิต
- เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดผิวในบริเวณที่จะฉีดดริปวิตามิน
- เจ้าหน้าที่เจาะเข็มเข้าเส้นเลือดดำและเริ่มฉีดวิตามินเข้าสู่หลอดเลือด
- หากเป็นการฉีดด้วยเข็มไซริงค์ แพทย์จะค่อย ๆ ฉีดสารเข้าสู่เส้นเลือดอย่างช้า ๆ
- หากเป็นการฉีดด้วยถุงน้ำเกลือ จะต้องนั่งรอจนกว่าวิตามินจะเข้าสู่เส้นเลือดไปหมด
- หลังฉีดเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะนำเข็มออก และปกปิดผิวในส่วนที่ทำการเจาะเข็มด้วยพลาสเตอร์ จากนั้นก็สามารถกลับบ้านได้เลยโดยไม่ต้องพักฟื้น
การดูแลตัวเองหลังดริปวิตามิน
หลังจากที่ดริปวิตามินเข้าสู่ผิวเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะมีวิธีการดูแลตัวเองแนะนำให้กลับไปทำเองที่บ้าน เพื่อให้สารอาหารและวิตามินต่าง ๆ ที่ฉีดเข้าสู่ร่างกายคงอยู่ได้ยาวนานและกระตุ้นให้สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภ่พ วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดดริปวิตามิน มีดังนี้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดนแดดแรง ๆ หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ให้ทาครีมกันแดดที่มี SPF สูง ๆ และใสหมวกหรือกางร่วมด้วย เพราะแสงแดดอาจยิ่งไปทำให้ผิวหมองคล้ำ
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้วิตามินออกฤทธิ์อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังดีต่อสุขภาพในระยะยาวด้วย
- หมั่นทาครีมบำรุงผิวและเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวอยู่เสมอ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อร่างกาย
- พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การดูแลตัวเองหลังดริปวิตามินเรียกง่าย ๆ ก็เหมือนกับการดูแลตัวเองในชีวิตประจำวันทั่ว ๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นการดื่มน้ำให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนอย่างเพียงพอ รวมไปถึงการออกกำลังกายเพื่อรักษาร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ
ฉีดวิตามินผิวกี่ครั้งเห็นผล?
การฉีดวิตามินผิวไสนั้นเป็นการฉีดสารจำพวกวิตามินซี สารอาหารผิวต่าง ๆ ที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระเพื่อให้ผิวดูเปล่งปลั่งกระจ่างใสและดูสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น โดยระยะเวลาที่จะเห็นผลนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 3 สัปดาห์ แต่ทั้งนี้ก็ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านสภาพผิวของแต่ละคนและความถี่ในการฉีดด้วย
ในระยะแรกของการฉีดวิตามินผิวอาจฉีดได้ประมาณสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เมื่อผิวเริ่มมีสุขภาพดีขึ้นแล้วก็สามารถขยับมาฉีดเป็นสัปดาห์ละ 1 ครั้งได้ และหากต้องการคงผลลัพธ์ไว้ให้อยู่ยาวนาน แนะนำให้ฉีดอย่างสม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง
ข้อควรระวังจากการทำ iv drip
การฉีด iv drip นั้นถือว่าเป็นขั้นตอนที่สามารถทำได้อย่างปลอดภัยหากเลือกใช้บริการคลินิกที่ แต่ทั้งนี้การทำ iv drip ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่หลากหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นผลลัพธ์ที่ไม่อาจเห็นผลได้อย่างทันท่วงที ต้องเข้ารับบริการหลายครั้ง อีกทั้งผลลัพธ์นั้นก็ไม่คงทนถาวร ต้องฉีดซ้ำเรื่อย ๆ
สำหรับสิ่งที่ควรระวังเป็นอย่างแรกในการทำ iv drip คือ การใช้วิตามินที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายอย่างรุนแรงได้ โดยอาการนั้นมีตั้งแต่คลื่นไส้ อาเจียน ความดันต่ำ ช็อกหมดสติ หรือร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
การเลือกสถานบริการหรือคลินิกที่เชื่อถือได้และให้บริการอย่างเป็นมาตรฐานจะช่วยสร้างความมั่นใจได้ เพราะสามารถตรวจสอบได้ และมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าสารที่ใช้นั้นได้มาตรฐานและได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา
นอกจากนี้ ความชำนาญของคุณหมอก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการฉีดสารใด ๆ เข้าร่างกายจะต้องผ่านการคำนวณและผ่านการประเมินให้ได้สารที่พอดีและเหมาะสมต่อร่างกายของแต่ละคน การได้รับสารมากเกินไปหรือฉีดบ่อยจนเกินไปอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายได้ เช่น
- ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- ระบบเลือดล้มเหลว
- เลือดออกผิดปกติ
- คลื่นไส้อาเจียนรุนแรง
- ปวดหัว ปวดเมื่อยตามร่างกาย
- การมองเห็นพร่ามัว
- แสบร้อนกลางอก
- เป็นตะคริว
- เม็ดเลือดแดงแตก ทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง
- ความดันโลหิตสูง
- เกิดอาการช็อก และอาจเสียชีวิตได้
เลือกทำ iv drip ที่ไหนดี?
สำหรับใครที่กำลังติดสินใจเลือกทำ iv drip แนะนำให้เลือกใช้บริการคลินิกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยและการให้บริการ เพื่อความมั่นใจในผลลัพธ์ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัย
สำหรับเคล็ดลับในการเลือกใช้บริการคลินิกหรือสถานบริการต่าง ๆ สามารถเลือกได้โดยพิจารณาเลือกคลินิกหรือสถานบริการที่ให้บริการอย่างมีมาตรฐาน ปลอดภัย มีใบอนุญาตประกอบการอย่างถูกต้อง และให้บริการในราคาที่สมเหตุสมผล นอกจากนี้ ยังควรหลีกเลี่ยงการใช้บริการจากหมอกระเป๋า เพราะเราไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่าวิตามินที่ใช้นั้นปลอดภัยและได้มาตรฐานการรับรองจากองค์การอาหารและยาหรือไม่
ทำไมต้องดริปวิตามินที่ Skinserity?
ที่ Skinserity มีบริการฉีดวิตามินด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการและคำแนะนำอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมาในราคาที่สมเหตุสมผล และใช้วิตามินที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา การันตีด้วยรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง
ขั้นตอนการรักษา
- ปรึกษาแผนการรักษาแบบส่วนตัวกับแพทย์ของเรา
- การวางแผนโปรแกรม IV
- ดูแลหลังการรักษาอย่างใกล้ชิดและเป็นส่วนตัวด้วยทีมงานของเรา
- ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น!
- เข็มขนาดเล็กที่มี cannula จะถูกสอดเข้าไปในเส้นเลือดที่แขนซ้ายหรือขวาของคุณ
- การรักษาด้วย IV ใช้เวลา 30-45 นาที
- เราจัดเตรียมสภาพแวดล้อมที่เป็นส่วนตัวและอบอุ่นในห้อง IV ของเราให้กับคุณ คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับบริการ WIFI ฟรีและ netflix ของเราได้อีกด้วย
ลูกค้าของเราคิดอย่างไร
จริงใจ อบอุ่น และปลอดภัย