โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
ฉีดโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม คืออะไร ? ควรฉีดตรงไหน ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?
แก้มอวยอิ่มเปล่งปลั่งเป็นสัญลักษณ์ของความดูเด็กและความอ่อนเยาว์ สังเกตได้จากเด็กสาวรุ่น ๆ จะมีพวงแก้มที่ดูเปล่งปลั่งสดใสกว่าวัยอื่น ๆ แต่เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังเริ่มหย่อนคล้อย แก้มส้มก็เริ่มหายไป โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มได้กลายมาเป็นนวัตกรรมใหม่ที่กำลังกลายเป็นที่นิยมในขณะนี้
แก้มส้มคืออะไร อยู่บริเวณไหนของใบหน้า
แก้มส้ม คือ บริเวณหน้าแก้มที่เป็นชื่อเรียกของพวงแก้มที่มีลักษณะคล้ายลูกส้ม แก้มส้มอยู่บริเวณใต้ตากับแก้ม และบริเวณโหนกแก้มกับจมูก บริเวณนี้จะมีความโค้งนูนคล้ายผลส้ม เมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นเป็นรูปตัว S ที่ด้านข้างของใบหน้า การมีแก้มส้มจะทำให้ใบหน้าดูมีมิติ ไม่หย่อนคล้อย และทำให้ดูอ่อนเยาว์
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มช่วยอะไรบ้าง?
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเป็นวิธีที่ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติ ลดปัญหาใบหน้าดูหย่อนคล้อย และช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ดูเด็กลงได้ การฉีดแก้มส้มจะช่วยให้ใบหน้าดูสวยหวานขึ้น นอกจากนี้ การมีแก้มส้มยังเป็นการช่วยเสริมโหงวเฮ้งตามความเชื่อต่าง ๆ อีกด้วย โดยแก้มส้มนั้นเป็นไปตามหลักโหงวเฮ้งใบหน้าแบบ Triangle of Youth ที่ใบหน้าจะถูกแบ่งออกเป็นสามเหลี่ยมหัวคว่ำ เมื่ออายุเพิ่มขึ้นใบหน้าจะกลับเป็นสามเหลี่ยมหัวตั้ง เนื่องจากสัดส่วนของโหนกแก้มและคางเปลี่ยนแปลง ผิวหนังหย่อนคล้อยลงตามแรงโน้มถ่วง โดยเฉพาะบริเวณแก้ม การฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้าจึงเป็นการช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้ได้รูปร่างที่สวยงามและเยาว์วัย ให้ใบหน้ากลับมาเป็นสามเหลี่ยมหัวคว่ำอีกครั้ง หากต้องการลักษณะใบหน้าให้ตรงตามหลักโหงวเฮ้งนี้ สามารถฉีดโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเพื่อเพิ่มโหนกแก้มได้
ฉีดแก้มส้มที่จุดไหนได้บ้าง?
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มนั้นถือว่าเป็นกระบวนการที่เป็นการใช้การเติมโปรแกรมฟิลเลอร์เข้าไปในบริเวณกลางหน้าหรือพวงแก้ม (Midface Filling) เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการยุบตัวของกระดูก กล้ามเนื้อ และไขมัน ที่ส่งผลให้ผิวหนังหย่อนคล้อย โดยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะที่จุดต่าง ๆ คือ โหนกแก้ม แก้มด้านบน ร่องน้ำตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ข้างคาง ด้านหน้าของใบหู และพวงแก้ม
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มทำได้โดยการประเมินปัญหาของแต่ละคนและเลือกฉีดในจุดที่เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องฉีดครบทุกจุดทั้ง 8 จุด ผลลัพธ์หลังโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะให้ผลที่คล้ายกับการวางผลส้มลงบนใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูมีมิติ ไม่แบนราบ และทำให้ใบหน้าดูเด็กมากยิ่งขึ้น
มีแก้มส้มดียังไง ช่วยเสริมโหงวเฮ้งได้จริงไหม?
ตามหลักโหงวเฮ้งของชาวจีนแล้วนั้น ชาวจีนเชื่อว่าถ้าแก้มมีลักษณะกลม ๆ เหมือนลูกส้ม ดูอวบอิ่มเต็มสวย ไม่มีร่องริ้วรอย และมีเนื้อแก้มเยอะ ถือเป็นลักษณะของคนที่มีวาสนาดี ตามความเชื่อนี้ คนที่มีลักษณะแก้มส้มดังกล่าวเมื่อหยิบจับอะไรก็จะกลายเป็นเงินเป็นทอง การงานจะไม่ติดขัด และเงินทองจะไหลมาอย่างสม่ำเสมอ
สำหรับคนที่มีหน้าแก้มแบน ร่องแก้มลึก และโหนกแก้มยุบตัว อาจทำให้ใบหน้าดูไม่มีมิติและไม่ถูกหลักโหงวเฮ้ง โดยลักษณะเหล่านี้เป็นลักษณะของคนที่ไม่มีวาสนา มีปัญหาในด้านการเงิน และอาจมีความยากลำบากในการดำเนินชีวิต
ดังนั้น สำหรับผู้ที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งและต้องการให้ใบหน้ามีมิติมากขึ้น จะแนะนำให้เลือกโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม เมื่อใช้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มอย่างถูกต้อง จะช่วยปรับรูปหน้า และช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้ดีขึ้นได้
ใครที่เหมาะกับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม?
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเป็นการเติมสารเติมเต็มประเภทไฮราลูโรนิคเข้าไปเพื่อเพิ่มปริมาณแก้มและปรับรูปหน้าให้มีลักษณะเหมือนลูกส้มที่ดูเต่งตึงและโดดเด่น การใช้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มไม่ได้จำกัดเฉพาะเพศใดเพศหนึ่ง สามารถทำได้ทั้งเพศหญิงและเพศชาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาใบหน้ามีลักษณะแก้มแบน แก้มตอบ แก้มยุบ ปัญหาผิวหย่อนคล้อย เกิดร่องลึกใต้ตา และปัญหาร่องแก้ม โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะช่วยเติมเต็มให้กับส่วนบนของแก้ม ทำให้แก้มยกกระชับ ดูมีมิติมากขึ้น และเพิ่มความอิ่มเอิบให้ใบหน้า
การฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์เพื่อแก้ไขแก้มส้มเป็นการฉีดเพื่อทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลงและช่วยเติมเต็มรูปร่างใบหน้าให้ดูมีมิติมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยแก้ไขปัญหาบริเวณใบหน้าอื่น ๆ จึงเหมาะกับ
- ผู้ที่มีโหนกแก้มแบนหรือโหนกแก้มสูงมาก
- ผู้ที่มีปัญหาแก้มตอบ แก้มยุบ หรือแก้มหย่อน
- ผู้ที่มีปัญหาร่องลึกใต้ตาหรือร่องน้ำตา
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ใบหน้ามีมิติมากขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส หรือดูแก่กว่าวัย
- ผู้ที่ต้องการเติมเต็มใบหน้าให้ดูอิ่มเอิบมากขึ้น
- ผู้ที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งให้ดูดีขึ้น
ฉีดโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มยังไงให้ดูธรรมชาติ ควรใช้กี่ cc
โดยปกติทั่วไปแล้ว โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มสามารถใช้เป็นทางเลือกเพื่อแก้ไขปัญหารูปหน้าหรือปรับโหงวเฮ้งรูปหน้าได้ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะใช้ปริมาณประมาณ 1-2 ซีซี โดยแพทย์จะเป็นผู้ทำการประเมินปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคลในการใช้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มอย่างเหมาะสม
ในบางกรณี โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มบริเวณเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาทั้งหมด จึงจำเป็นต้องเสริมด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณอื่น ๆ เช่น โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ หรือโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเพื่อเพิ่มมิติให้กับช่วงหน้าแก้ม (Midface) และให้ใบหน้าดูสวยและเป็นธรรมชาติตามความต้องการ
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มอันตรายไหม?
การทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเพื่อเติมเต็มให้ใบหน้าดูอวบอิ่มและมีมิติเป็นกระบวนการที่ควรให้ความสำคัญต่อความเสี่ยงต่ำ ดังนั้น จึงควรเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือและให้บริการอย่างมีมาตรฐาน
คลินิกที่น่าเชื่อถือจะมีการตรวจสอบโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ใช้ว่าเป็นของแท้หรือไม่ และสามารถขอดูการแกะกล่องโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์และการผสมยาได้ การใช้บริการคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานอาจเสี่ยงให้เจอโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ของปลอม ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงหรือการแพ้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ได้
สำหรับผลลัพธ์ที่ดีในโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม แนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการดูแลผิวหน้าและใช้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ธรรมชาติ
ข้อควรปฏิบัติก่อน-หลังฉีดแก้มส้ม
การปฏิบัติตัวก่อนและหลังโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อน และให้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยยืดอายุของโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มไม่ให้สลายเร็วอีกด้วย
คำแนะนำก่อนฉีดโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
- งดยาแอสไพริน (NSAIDs) เช่น Ibuprofen, Diclofenac, Ponstan.
- งดการทานวิตามินบางอย่างที่ไปทำให้ลือดแข็งตัวช้า เพราะอาจเสี่ยงต่ออาการช้ำหลังฉีดได้
- งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่องของการผลัดเซลล์ผิว เช่น Retinoids, Retinol, Glycolic Acid ประมาณ 3 วันก่อนฉีดโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์บริเวณแก้มส้ม
- งดการขัดผิว และการโกนขนในบริเวณที่จะฉีดก่อนโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
- หากมีโรคประจำตัวหรือรับประทานยาอื่น ๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนฉีดโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
- งดการนวดหน้าหรือเลเซอร์ใด ๆ ก่อนการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์อย่างน้อย 3 วัน
คำแนะนำการปฏิบัติตัว 24 ชั่วโมงก่อนโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
- ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
- ควรงดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การออกกำลังกายอย่างหนักและการเข้าห้องซาวน่า
คำแนะนำการปฏิบัติตัวหลังฉีดโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
- สามารถประคบเย็นบริเวณที่ฉีดโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มได้ แต่ไม่ควรกดทับแรง
- หลังจากฉีดโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ 24 ชั่วโมงอาจมีอาการปวด สามารถทานยาแก้ปวดพาราเซตามอลได้
- ไม่ควรนอนตะแคงใน 2-3 คืนแรกหลังฉีดโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม เพื่อป้องกันการกดทับบริเวณที่ฉีดโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์
- ควรนอนในห้องที่มีอุณหภูมิประมาณ 18-23 องศาเซลเซียส ไม่ควรอยู่ในที่ร้อน ๆ
- งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2-3 วันหลังจากฉีดโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์
- ควรเลือกรับประทานอาหารที่ไม่จัดมากจนเกินไปและควรงดอาหารดิบเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หลังฉีดโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะช่วยลดอาการปวด อาการบวมแดงหลังฉีดโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษากับแพทย์และควรปฏิบัติตามคำแนะนำการปฏิบัติตัวก่อนและหลังโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน
สรุป เคล็ดลับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม และทำไมจึงต้องฉีดที่ Skinserity
สำหรับใครก็ตามที่กำลังสนใจโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม สิ่งสำคัญคือการเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและน่าเชื่อถือ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี นอกจากนี้ ควรตรวจสอบว่าโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แท้และมีคุณภาพ อีกทั้งยังควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการใช้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถวิเคราะห์ใบหน้าและแนะนำวิธีการแก้ไขปัญหาได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการและเป็นที่น่าพึงพอใจ ดังนั้น ควรใช้เวลาในการค้นหาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจและตัดสินใจอย่างรอบคอบก่อนการเลือกคลินิกและแพทย์ที่จะให้บรอโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
และที่คลินิก Skinserity ที่นี่ให้บริการอย่างมีมาตรฐาน ด้วยแพทย์ที่มีความชำนาญและมากไปด้วยประสบการณ์ ใช้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา จึงมั่นใจได้ว่าโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์นั้นจะมอบผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพในทุก ๆ ขั้นตอน
ขั้นตอนการรักษา
วางแผนการรักษาส่วนตัวของคุณกับแพทย์ของเรา
- ทำความสะอาดผิวของคุณ
- ทำเครื่องหมายบริเวณการรักษาของคุณ
- เลือกผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มอย่างระมัดระวัง
- การฉีดสารเติมเต็ม
- การดูแลหลังการส่วนตัวจากแพทย์ของเรา
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีด
- รับประทานยาตามที่กำหนด (ถ้ามี)
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่เข้มข้นภายใน 24 ชั่วโมงแรก
- หากมีอาการบวมกรุณาใช้ถุงน้ำแข็งหรือแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
- กรุณาแจ้งให้แพทย์ทราบหากมีการเปลี่ยนสีหรืออักเสบ
ลูกค้าของเราคิดอย่างไร
จริงใจ อบอุ่น และปลอดภัย