โบทูลินั่ม ท็อกซินลิฟกรอบหน้า
โบทูลินั่ม ท็อกซินลิฟกรอบหน้าคืออะไร? ฉีดแล้วช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง
โบทูลินั่ม ท็อกซินลิฟกรอบหน้าได้กลายเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมอีกนวัตกรรมหนึ่งในยุคนี้ เพราะเทรนด์ความงามหน้า กระชับและเรียวเล็ก กรอบหน้าโครงหน้าชัด และนวัตกรรม botox lift กรอบหน้าก็ตอบโจทย์เทรนด์ความงามนี้มาก
โบทูลินั่ม ท็อกซินลิฟหน้าคืออะไร?
โบทูลินั่ม ท็อกซินลิฟกรอบหน้า เป็นนวัตกรรมการฉีดสารโบทูลินัมท็อกซินเข้าไปที่บริเวณกรอบหน้า เพื่อให้ผิวบริเวณกรอบหน้าดังกล่าวเกิดการยกกระชับ ให้ใบหน้าดูเรียว มีมิติมากยิ่งขึ้น โดยจะเริ่มเห็นผลได้อย่างชัดเจนหลังฉีดไปประมาณ 2 สัปดาห์
การฉีดโบเพื่อลิฟกรอบหน้าให้ดูกระชับได้รูปนั้นเป็นการทำให้หน้าดูยกกระชับ เห็นแนวกรามชัดเจนโดยไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด จึงไม่ทำให้ต้องเสียเวลาพักฟื้น ไม่เจ็บ และไม่มีแผลเป็น อีกทั้งยังสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วทันใจอีกด้วย
ฉีดโบลิฟกรอบหน้ามีข้อดี-ข้อเสีย อะไรบ้าง?
มีเหตุผลอยู่เบื้องหลังความนิยมในการฉีดโบลิฟกรอบหน้า เพราะการฉีดโบกรอบหน้านั้นมีข้อดีมากมาย แต่ทั้งนี้ก็ยังมีข้อเสียที่ต้องตระหนักไว้ด้วยเช่นเดียวกัน
ข้อดี
- เป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ในระยะเวลาสั้น ๆ
- ช่วยให้กรอบหน้าดูเรียว กระชับ และได้รูป
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บตัว และไม่ต้องพักฟื้น
- สามารถฉีดโบกรอบหน้าร่วมกับการทำหัตถการกระชับใบหน้าอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น เช่น อัลเทอร่าหรือโปรแกรมฟิลเลอร์ และสามารถทำได้ในวันเดียวกัน
- สามารถฉีดซ้ำได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายและผิวหน้าอย่างใด
- สามารถทำได้ทั้งเพศชายและเพศหญิงโดยให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
ข้อเสีย
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร ควรฉีดซ้ำทุก 4-6 เดือน
- บริเวณผิวหนังอาจมีรอยช้ำจากเข็มได้เล็กน้อยหลังหัตถการ แต่ไม่เกิน 1 สัปดาห์
ฉีดโบลิฟกรอบหน้า กับฉีดโบลดกราม ต่างกันอย่างไร?
สำหรับบางคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมือใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการฉีดโบ อาจจะเกิดอาการสับสนกันอยู่เล็กน้อยว่าการฉีดโบลิฟกรอบหน้ากับการฉีดโบลดกรามนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร ทั้งสองอาจดูมีความคล้ายคลึงกัน แต่มีความแตกต่างกัน ดังนี้
- การฉีดโบลิฟกรอบหน้า จะเป็นการฉีดชั้นผิวตื้นที่บริเวณกรอบหน้าและลำคอเพื่อให้ผิวหนังถูกดึงเรียบตึงขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูเรียวสวย ช่วงคอดูเรียวยาว และกรอบหน้าดูคมชัด
- การฉีดโบลดกราม เป็นการฉีดที่บริเวณกล้ามเนื้อกราม(Masseter)โดยตรงเพื่อให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นเกิดการคลายตัว ทำให้ใบหน้าดูเล็กเรียวขึ้น เหมาะกับคนกรามใหญ่ ที่ต้องการแก้ไขปัญหารูปหน้าให้เล็กเรียวลง หรือมีปัญหานอนกัดกราม กรามค้าง (Jaw locking) หรือ โรคปวดหัวไมเกรนเรื้อรัง
เทคนิคลิฟกรอบหน้า
สำหรับการฉีดโบลิฟหน้านั้น โดยทั่ว ๆ ไป เทคนิคการฉีดโบลิฟกรอบหน้าจะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ เทคนิคการฉีดโบแบบ Dermo Lift กับอีกเทคนิคหนึ่ง คือ การฉีดโบแบบ Nefertiti Lift
- เทคนิค Dermo Lift เป็นการฉีดโบตามแนวกรอบหน้าจากด้านล่างขึ้นไปด้านบน ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวบริเวณกรอบหน้าดูยกกระชับขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างเร่งด่วน
- เทคนิค Nefertiti Lift เป็นการฉีดโบที่บริเวณกล้ามเนื้อลำคอ ซึ่งผลลัพธ์จะอยู่ได้นานกว่า เพราะกล้ามเนื้อบริเวณนี้เป็นกล้ามเนื้อส่วนที่ดึงผิวลงมาซึ่งทำให้ใบหน้าหย่อนคล้อย หลังฉีดแล้วจึงทำให้ให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นแข็งแรง และสามารถดึงผิวหน้าให้ตึงกระชับ
ฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินลิฟกรอบหน้าใช้กี่ยูนิต
ปริมาณการฉีดโบลิฟกรอบหน้านั้นขึ้นอยู่กับการประเมินที่คุณหมอจะประเมินให้แต่ละคน โดนส่วนมากจะเริ่มที่ 40-50 ยูนิต และสามารถฉีดได้ถึง 100 ยูนิต ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละเคส ทั้งนี้ การฉีดโบลิฟหน้านั้นสามารถฉีดได้ทุกช่วงอายุ แถมยังสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบนผิวหน้าได้ในระยะยาว
ฉีดโบลิฟหน้าเหมาะกับใครบ้าง?
อย่างที่ได้กล่าวในข้างต้น ว่าการฉีดโบนั้นสามารถฉีดได้ทุกช่วงอายุโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ โดยผู้ที่เหมาะกับการฉีดโบ คือ ผู้ที่กรอบหน้าเริ่มหย่อนคล้อย ผู้ที่เคยผ่าตัดโครงหน้า หรือเคยผ่าตัดกระดูกออก ทำให้ผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าดูไม่ชัด นอกจากนี้ การฉีดโบลิฟหน้ายังเหมาะกับผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อ ซึ่งสามารถฉีดร่วมกับโบหน้าเรียวได้
ทั้งนี้การฉีดโบสามารถเริ่มฉีดได้ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป มีการศึกษาวิจัยระบุว่ายิ่งฉีดไวเท่าไหร่หรือฉีดตอนอายุยังน้อย ๆ เท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยปกป้องผิวจากริ้วรอยของอายุได้ดีมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ดังนั้น การฉีดโบจึงไม่ได้มีการจำกัดอายุแต่อย่างใด
ฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินลิฟหน้าอยู่ได้นานแค่ไหน?
การฉีดโบลิฟกรอบหน้าจะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ การฉีดแบบเทคนิค Dermo Lift ซึ่งผลลัพธ์สามารถอยู่ได้ยาวนานประมาณ 1-2 เดือน ส่วนการฉีดแบบเทคนิค Nefertiti Lift ผลลัพธ์จะอยู่ได้ยาวนานประมาณ 3-4 เดือน
ฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินลิฟกรอบหน้ามีข้อเสียไหม?
โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว การฉีดโบกรอบหน้านั้นไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด หากใช้บริการคลินิกที่ได้มาตรฐานและคุณหมอที่มีทักษะและประสบการณ์ แต่ต้องระมัดระวังใช้บริการคลินิกเถื่อน หมอเถื่อน เพราะอาจใช้โบผสมน้ำเกลือในปริมาณมากจนไม่เห็นผล หรือใช้ผลิตภัณท์ปลอม หรือไม่ผ่าน อย. ที่อาจทำให้เกิดอาการดื้อโบได้
นอกจากนี้ ข้อจำกัดอีกอย่างของการฉีดโบลิฟกรอบหน้าคือผลลัพธ์จะคงอยู่ได้ 3-4 เดือนเท่านั้น ซึ่งบางคนอาจจะรู้สึกว่าอยู่ได้ไม่ยาวนาน อีกทั้งยังเป็นผลลัพธ์ที่ไม่คงทนถาวร ต้องมาฉีดย้ำ ๆ อยู่เสมอ
ดูแลตัวเองหลังฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินลิฟกรอบหน้ายังไง?
หลังจากฉีดโบกรอบหน้าแล้ว คุณหมอจะมีคำแนะนำและข้อปฏิบัติตัวหลังฉีด ดังนี้
- ควรขยับเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดทันทีหลังฉีดเพื่อให้สารกระจายตัวได้ดี
- ทาน Zinc เพื่อให้สารสามารถออกฤทธิ์ได้ดีมากยิ่งขึ้น
- ห้ามนอนราบเป็นระยะเวลา 4 ชั่วโมงหลังฉีด
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมทุกชนิดที่ทำให้เกิดความร้อน หรือสัมผัสกับความร้อน อาทิเช่น ซาวน่า หรือแช่ออนเซน เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์
เลือกฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินลิฟหน้าที่ไหนดี?
สำหรับใครที่ตัดสินใจแล้วว่าจะไปฉีดโบลิฟหน้าเรียว ก่อนจะเข้ารับบริการที่คลินิกใด ๆ แนะนำให้เลือกหลังจากได้ทำการศึกษาหาข้อมูลก่อน ดังนี้
- หาอ่านรีวิวจากผู้ใช้บริการคลินิกจริง (ไม่ใช่รีวิวจ้าง)
- พิจารณาด้านราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณที่ตั้งไว้
- หาอ่านเคสรีวิวคุณหมอผู้ให้บริการ
แนะนำว่าไม่ควรเลือกคลินิกที่เห็นแก่ราคาถูก เพราะอาจเป็นคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน การจะเลือกว่าจะฉีดโบลิฟหน้าที่ไหนดีควรพิจารณาเรื่องของการให้บริการที่ได้มาตรฐานเป็นหลัก เพื่อะผลลัพธ์ที่ได้ผลตามความต้องการ
ฉีดโบลิฟหน้าที่ Skinserity ดีอย่างไร?
ที่คลินิก Skinserity มีบริการฉีดโบลิฟหน้าที่ให้ผลลัพธ์เห็นผลอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญที่มากไปด้วยทักษะและประสบการณ์คอยให้คำปรึกษาแนะนำในแต่ละเคส เพื่อให้แต่ละเคสได้ผลลัพธ์หลังการฉีดโบลิฟหน้า
ขั้นตอนการรักษา
วางแผนการรักษาของคุณกับแพทย์ของเรา
- ทำความสะอาดผิวของคุณ
- ทำเครื่องหมายบริเวณการรักษาของคุณ
- เลือกโบทูลินั่ม ท็อกซินที่เหมาะสม
- การดูแลส่วนบุคคลจากแพทย์ของเรา
- หลีกเลี่ยงการนอนราบเป็นเวลา 4-6 ชั่วโมงหลังการรักษา
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่เข้มข้นภายใน 24 ชั่วโมงแรก
- หลีกเลี่ยงความร้อนโดยตรง เช่น ซาวน่า และออนเซ็น เป็นเวลา 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการนวดหน้าบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 2 สัปดาห์
ลูกค้าของเราคิดอย่างไร
จริงใจ อบอุ่น และปลอดภัย